เหมือนอยากเปิดคาสิโน สิ่งที่คุณต้องคิดหนัก

โปรโมชั่น “เครดิตฟรี” ใครๆก็ชอบ

คาสิโน คือ บ่อนการพนันขนาดใหญ่ ที่มีเกมการพนันหลากหลายรูปแบบไว้คอยบริการ เมื่อนึกถึง “คาสิโน” เราสามารถจินตนาการถึงมันได้สัก 3รูปแบบ

1. คาสิโนรีสอร์ท คือ คาสิโนขนาดใหญ่ มักตั้งอยู่ห่างไกลออกไปจากชุมชน

2. คาสิโนในเมือง มีขนาดที่เล็กกว่าคาสิโนรีสอร์ท และตั้งอยู่ในเมืองตามย่านชุมชน

3. คาสิโนเกมส์ เป็นร้านสำหรับตั้งตู้เกมส์พนันต่าง ๆ เช่น ตู้สล๊อตแมชชีน และอื่น ๆ สามารถตั้งกระจัดกระจายไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในชุมชนเมืองและชานเมือง

ซึ่งคาสิโนแต่ละรูปแบบต่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน แบบที่หนึ่งส่งผลลบต่อชุมชนน้อยที่สุด เพราะคนทั่วไปเข้าถึงยาก ส่วนแบบที่สองและแบบที่สามควบคุมผลลบต่อชุมชนได้ยาก ยิ่งอยู่ใกล้ชุมชนยิ่งเปิดโอกาสให้คนในชุมชนเข้าถึงง่าย ยิ่งสร้างปัญหา เพราะลูกค้าหรือนักพนันไม่พ้นเป็นคนในท้องถิ่น

เหตุผลในการเสนออยากเปิดคาสิโนมักไม่พ้นเหตุผล2 ประการ คือ

หนึ่ง “มุ่งจะเปิดคาสิโนเพื่อดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นสำคัญ และไม่คิดจะหวังรายได้จากนักพนันในประเทศ” ฉะนั้น คาสิโนที่เขาเสนอมักมีจินตนาการเป็นคาสิโนรูปแบบที่ 1หรือ 2

สอง “หวย บ่อน (อาจรวมซ่องด้วย) เป็นเศรษฐกิจนอกระบบที่ดึงดูดเม็ดเงินจากคนในประเทศจำนวนมาก ฉะนั้น ควรจะต้องนำขึ้นมาบนดิน เพื่อให้รัฐสามารถเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และควบคุมได้

สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจให้กระจ่างก็คือ “คาสิโนคุ้มค่าการลงทุนจริงหรือ?” โปรดลองพิจารณาประเด็นต่อไปนี้

หนึ่ง หากท่านคิดว่าการมีคาสิโนแล้วจะทำให้บ่อนพนันผิดกฎหมายทั้งหลายจะหายไป เรื่องนี้คงไม่เป็นจริง เพราะการมีบ่อนคาสิโนถูกกฎหมายจะไม่ทำให้บ่อนพนันผิดกฎหมายหมดไป เทียบเคียงได้กับกรณีของหวยใต้ดินที่แม้รัฐบาลจะเพิ่มจำนวนการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลมากขึ้นเท่าใด แต่หวยใต้ดินก็ไม่ได้น้อยลง หรือออกสลากชุดเองแล้วจะทำให้สลากชุดหมดไป

ตรรกะที่ว่าเมื่อทำให้สิ่งผิดกฎหมายกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย แล้วสิ่งที่ผิดกฎหมายเหล่านั้นจะหมดไป เทียบได้กับ “การเอาโจรมาจับโจร” เป็นตรรกะที่ป่วย เพราะสุดท้ายจะกลายเป็นเพิ่มโจรให้มากขึ้น เพราะฉะนั้น ที่วาดฝันว่าจะได้เงินเข้าระบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั้น น่าจะห่างไกลความเป็นจริง และจะกลับกลายเป็นการยิ่งเพิ่มแหล่งเล่นการพนันให้มีมากขึ้นทั้งบนดินและใต้ดินด้วย

สอง การลงทุนในธุรกิจคาสิโนต้องใช้เงินจำนวนมาก และรัฐบาลของทุกประเทศมักจะไม่ลงทุนเอง แต่จะให้ต่างชาติมาลงทุน ซึ่งแน่นอนว่าเงินกำไรที่ได้จะเป็นของนักลงทุนต่างชาติเป็นสำคัญ โดยรัฐบาลเจ้าของประเทศจะได้แค่ค่าตอบแทนในรูปของภาษีเท่านั้น และหากเป้าหมายคือการต้องการเพิ่มการลงทุนจากต่างชาติให้มาลงทุนในบ้านเรามากขึ้น รัฐบาลคิดหากิจการอื่นที่สร้างสรรค์ และมีความเสี่ยงน้อยกว่าคาสิโนมาลงทุนไม่ดีกว่าหรือ?

เพราะหากคิดจะลงทุนด้วยคาสิโนจริงต้องมีการวิเคราะห์ผลประโยชน์กับต้นทุน (Benefit v.s.Cost) อย่างจริงจัง คิดง่ายๆ คงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินผลกระทบทางสังคม (Social Impact Assessment : SIA) จึงจะสามารถตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าของการมีคาสิโนได้

ตัวอย่างการคำนวณผลกระทบทางสังคมของสหรัฐอเมริกาที่ถือเป็นต้นแบบของประเทศที่หารายได้จากคาสิโน พบว่าในปี 2004 หลังจากหักกลบลบหนี้กันระหว่างรายได้เข้าประเทศกับต้นทุนผลกระทบทางสังคมแล้ว ทั้งสองเกือบจะเท่ากัน คือประมาณ 47,000ล้านดอลล่าร์ ต่างกันที่ตัวเลขสามตัวหลังที่หลักร้อยล้านเทานั้น เพราะต้นทุนทางสังคมที่เกิดจากคนอเมริกัน 1คนที่ติดพนัน = 10,330 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 310,000บาท/คน ขณะที่ต้นทุนทางสังคมที่เกิดจากคนอเมริกัน 1คน ที่เล่นพนันจนเกิดปัญหา = 2,945 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 88,000 บาท/คน(หากคำนวณที่ 1ดอลล่าร์=30บาท) ซึ่งรัฐบาลจะต้องคำนึงไว้ล่วงหน้าก่อนด้วยว่า “ใครคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบจ่ายต้นทุนผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการมีคาสิโน?” ธุรกิจคาสิโนหรือประเทศไทย