เสือมังกรในคาสิโนออนไลน์ ขวัญใจ คนไม่ชอบรอ

เกมไพ่ที่มาแรงในยุคนี้ บางคนก็เรียกว่า เกมมังกรเสือ ซึ่งถูกพูดถึงทั้งบนคาสิโนชื่อดังตลอดจนตามเว็บคาสิโนออนไลน์มากมาย เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบความรวดเร็ว เพราะใช้ไพ่เพียง 1 ใบในการตัดสินแพ้ชนะของฝั่งเสือและฝั่งมังกร กติกาเล่นง่ายไม่ซับซ้อน และยังสามารถวางเดิมพันได้หลายแบบ ปัจจุบันได้ถูกนำมาบรรจุอยู่ในเว็บพนันออนไลน์ ในฐานะเสือมังกรออนไลน์เกมไพ่ยอดนิยมที่ใครๆ ก็ต้องอยากเล่น

มีรูปแบบการเล่นมาจากทางกัมพูชาซึ่งเล่นกันในบ่อนคาสิโนตามปกติ ลักษณะการเล่นคล้ายกับบาคาร่าคือเน้นจบไว ต่อมาเห็นว่าเป็นเกมที่น่าสนใจได้เงินไวทำให้ผู้บริการคาสิโนออนไลน์หลายแห่ง นำเกมไพ่เสือมังกรออนไลน์บรรจุลงไปในระบบและกลายเป็นที่รู้จักในวงการนักพนันระดับเอเชียจนถึงทุกวันนี้

วิธีการเล่นเกมเสือมังกร จะเริ่มด้วยการแจกไพ่ให้ฝั่งผู้เล่นก่อน จากนั้นจึงแจกให้ฝั่งเจ้ามือ โดยจะได้รับเพียงคนละ 1 ใบเท่านั้น ผู้เล่นต้องเลือกเดิมพันฝั่งมังกร (Dragon) ฝั่งเสือ (Tiger) หรือเสมอกัน (Tie) เมื่อวางเดิมพันเสร็จให้ทำการเปิดไพ่ทันทีเพื่อดูว่าแต้มฝั่งไหนใหญ่ที่สุดสำหรับวิธีการวางเดิมพันของเกมเสือมังกร ไพ่ที่เป็นตัวเลข จะนับแต้มตามตัวเลขนั้นๆ เช่น เลข 2 ก็จะนับเป็น 2 แต้ม ส่วนไพ่ที่เป็นภาษาอังกฤษจะนับแต้ม ดังนี้ A = 1 แต้ม / J = 11 แต้ม / Q = 12 แต้ม / K=13 แต้ม

การแทงเลขคี่

อย่างที่เรา ๆ รู้กันคือไพ่ 1 สำรับ ที่นักพนันนิยมเล่นกันนั้น มีไพ่อยู่ในสำรับทั้งหมด 52 ใบ และ มีจำนวนเลขคี่อยู่ 28 ใบ และในขณะที่มีเลขคู่อยู่เพียง 24 ใบ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าเราสามารถใช้เทคนิคการเดิมพันเสือมังกร โดยการแทงเลขคี่ได้ ซึ่งต้องใช้เทคนิคการนับไพ่เสือมังกร เข้ามาช่วยได้ วิธีการนับควรนับตั้งแต่ต้น หรือ ตั้งแต่เริ่มเล่นตาแรกของเกม หลังจากนั้นแล้วให้เริ่มจดบันทึก หรือ จำไว้ว่ามีจำนวนเลขคู่ออกไปแล้วกี่ใบ และ มีจำนวนเลขคี่ออกไปแล้วกี่ใบ โดยการท่องจำไว้ในใจ และเมื่อเล่นผ่านไปแล้ว 20 ตา หากมีจำนวนไพ่เลขคู่ออกมามากกว่าเลขคี่ เกิน 10 ใบขึ้นไป ในตาต่อไปคุณสามรถวางเดิมพันเลขคี่ได้เลย ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีโอกาสเพียงแค่ 0.7 แต่โอกาสที่จะออกเลขคี่นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก ๆ เลย

การแทงเลขซ้ำ

สูตรการแทงเลขซ้ำ เสือมังกร ซึ่งถ้าอยู่ในเกมบาคาร่า จะเรียกสูตรนี้ว่า สูตรหางมังกร นั่นเอง รูปแบบวิธีการเล่นรูปแบบเดียวกัน ซึ่งก็คือการออกติดกันซ้ำ ๆ แล้วเราก็วางเดิมพันที่ฝั่งนั้นต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีการออกสลับ หรือ ออกตรงกันข้ามอีกครั้งหนึ่ง เช่นถ้าหากว่าฝั่งเสือชนะ ต่อกันถึง 5 ตา และในตาถัดไป หรือ ตาที่ 6 คุณควรที่จะวางเดิมพันฝั่งเสือ และ วางฝั่งเสือ ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะออกฝั่งมังกร นั่นเอง

สำหรับอัตราการจ่ายจะมีความแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม ซึ่งประกอบไปด้วย 11 แบบดังนี้

1. เสือ คือ เดิมพันฝั่งเสือชนะ อัตราการจ่ายที่ 1 เท่า
2. มังกร คือ เดิมพันฝั่งมังกรชนะ อัตราการจ่ายที่ 0.95 เท่า
3. เสมอ คือ เดิมพันไพ่ทั้งสองฝั่งออกไพ่เป็นเลขตัวเดียวกัน อัตราการจ่ายที่ 8 เท่า
4. เสือคู่ คือ เดิมพันฝั่งเสือออกไพ่เป็นเลขคู่ ได้แก่ 2, 4, 6, 8 และ 10 อัตราการจ่ายที่ 1.05 เท่า
5. เสือคี่ คือ เดิมพันฝั่งเสือออกไพ่เป็นเลขคี่ ได้แก่ 1, 3, 5, 7 และ 9 อัตราการจ่ายที่ 0.75 เท่า
6. มังกรคู่ คือ เดิมพันฝั่งมังกรออกไพ่เป็นเลขคู่ ได้แก่ 2, 4, 6, 8 และ 10 อัตราการจ่ายที่ 1.05 เท่า
7. มังกรคี่ คือ เดิมพันฝั่งมังกรออกไพ่เป็นเลขคี่ ได้แก่ 1, 3, 5, 7 และ 9 อัตราการจ่ายที่ 0.75 เท่า
8. เสือดำ คือ เดิมพันฝั่งเสือออกไพ่เป็นดอกสีดำ อัตราการจ่ายที่ 0.90 เท่า
9. เสือแดง คือ เดิมพันฝั่งเสือออกไพ่เป็นดอกสีแดง อัตราการจ่ายที่ 0.90 เท่า
10. มังกรดำ คือ เดิมพันฝั่งมังกรออกไพ่เป็นดอกสีดำ อัตราการจ่ายที่ 0.90 เท่า
11. มังกรแดง คือ เดิมพันฝั่งมังกรออกไพ่เป็นดอกสีแดง อัตราการจ่ายที่ 0.90 เท่า